หงชุน (Hongcun) เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในภูมิภาค Huizhou ผู้คนมองหมู่บ้านแห่งนี้เป็นรูป “วัว” โดยมีส่วนเนินเขา Leigang เป็นส่วนหัว มีสะพานเชื่อมต่อกับหมู่บ้าน 4 แห่ง สามารถมองเห็นลำธาร Jiyin เป็นขาในขณะที่บ้านเป็นร่างกาย ภายในมีลำธารจีหยินเป็นตัวแทนของลำไส้และทะเลสาบต่าง ๆ เช่น เซาท์เลค ซึ่งเป็นอวัยวะภายในอื่นๆ สถาปัตยกรรมของคนที่อยู่อาศัยมีอายุเก่าแก่กว่า 150 ปี อยู่ในช่วงราชวงศ์หมิง – ชิงได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในประเภทที่ดีที่สุดในประเทศจีน มันจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งที่ประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง ด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ทำให้ถูกขึ้นเป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก้ มีภาพยนตร์มากมายได้มาถ่ายทำในสถานที่แห่งนี้เช่น เสือหมอบซุ่ม มังกรซ่อนเร้น (Crouching Tiger, Hidden Dragon) สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด หมู่บ้านแห่งนี้ค่อนข้างเล็กพอสมควร ถนนบางแห่งยังทำก้อนหินปูถนนทำให้การเดินไม่ใช่เพียงแต่วิธีที่ดีสุด แต่เป็นวิธีเดียวที่จะเข้าไปตามจุดต่างๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปเยี่ยมชมมากมายได้แก่ Chengzhi Hall เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบ เป็นหนึ่งในอาคารโดดเด่นที่สุดและได้รับการยกย่องในหมู่บ้านแห่งนี้ มีการตกแต่งสวยงามทั่วทั้งตัวอาคารไม่ว่าจะเป็นคาน บานประตู ที่ชุบด้วยทองคำปริมาณกว่า 5 กิโลกรัม Nanhu Academy ตั้งอยู่บนฝั่งทิศเหนือของ South Lake มีพื้นที่ประมาณ […]

เขาหวงซาน (Huangshan) ในภาษาจีนมีความหมายว่า “ภูเขาสีเหลือง” เป็นเทือกเขาในมณฑลอานฮุยตอนใต้ในภาคตะวันออกของจีน พืชพันธุ์ที่อยู่ในเขตนี้จะขึ้นอยู่ในระดับความสูงต่ำกว่า 1,100 เมตร (3,600 ฟุต) โดยมีต้นไม้ที่เติบโตปกคลุมที่ความสูง 1,800 เมตร (5,900 ฟุต) บริเวณนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างมาก โดยเฉพาะการชมภาพพระอาทิตย์ตกยอดบนเขาหินแกรนิตที่มีรูปร่างแปลกตา มีสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายเช่น น้ำพุร้อน หิมะ จุดชมวิวเหนือเมฆ ภูเขาแห่งนี้มักถูกนำไปใช้เป็นแบบวาดภาพตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีความนิยมอยู่ ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็น มรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวจุดสำคัญของประเทศจีน ประวัติศาสตร์ของเขาหวงซาน นักวิทยาศาสตร์คาดไว้ว่าหวงซานก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 100 ล้านปีก่อน ในอดีตถูกเรียกขานในอีกชื่อหนึ่งว่า “ภูเขายี่ซาน” จนภายหลังในปี 747 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นหวงซานโดยเชื้อพระวงศ์ในสมัยนั้น เพื่อเป็นเกียรติแก่ “จักรพรรดิเหลืองหวงตี๋” จักรพรรดิจีนในตำนานบรรพบุรุษของชาวฮั่นจีน หนึ่งในตำนานกล่าวว่าหวงซานเป็นสถานที่ซึ่งจักรพรรดิเหลืองขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ผู้คนเริ่มรู้จักชื่อใหม่ผ่านผลงานบทกวีดังของจีน “หลี่ ไป๋” ในสมัยก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมันแทบจะไม่เคยเป็นที่รู้จักเลยด้วยซ้ำ หลังจากได้รับการเปลี่ยนชื่อมันได้กลายเป็นที่สนใจมากขึ้น เริ่มมีผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมมากขึ้น พื้นที่หลายแห่งเริ่มถูกนำไปใช้สร้างวัดวาอาราม ภาพลักษณ์ที่ดูโดดเด่นของภูเขาแห่งนี้คือบันไดหินที่วางเรียงรายอยู่ตามริมเขา ซึ่งอาจมีมากกว่า 60,000 แห่งทั่วพื้นที่ ไม่มีใครทราบขั้นตอนการสร้างหรือรู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นเมื่อไหร่ แต่มีการกล่าวกันว่ามีอายุมากกว่า […]

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์อันสุดอลังการ และมีความเก่าแก่ จากการถูกค้นพบด้วยความบังเอิญ ที่หลายๆคนอยากจะไปชมด้วยสายตาตัวเองสักครั้ง ‘พิพิธภัณฑ์สุสานจิ๋นซี’ แห่ง ซีอาน ย้อนไปในวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 ณ หมู่บ้านซีหยาง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชานเมืองตะวันออกของเมืองซีอาน ตอนนั้นมีชาวนาจีนกลุ่มหนึ่ง กำลังลงมือขุดเจาะหลุมเพื่อสร้างบ่อน้ำ ความลึกประมาณ 2.5 กิโลเมตร ก็ได้บังเอิญไปพบชิ้นส่วนเครื่องปั้นดินเผาโบราณ ที่เป็นเบาะแสชิ้นแรกอันนำไปสู่การค้นพบทางโบราณคดีครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ คำว่า สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ในภาษาจีนเรียกว่า ปิงหม่าหยง การเดินทางก็ไปง่าย มีรถสาธารณะเข้าถึง โดยเฉพาะผู้ที่มีตั๋วรถไฟความเร็วสูง ณ สถานี North Xian Railway Station คุณสามารถซื้อตั๋ว สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้ที่สถานีนี้เลย อีกทั้งยังสามารถขึ้นรถบัสนำเที่ยวฟรีได้อีกต่างหาก จิ๋นซีฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์แรกของแผ่นดินจีน พระองค์ทรงรวบรวมรัฐต่างๆ ที่ทำสงครามระหว่างกันอย่างนานกว่า 500 ปี ให้กลายมาเป็นแผ่นเดียวจนถึงในปัจจุบัน แล้วจึงสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้องค์แรก พร้อมวางระบบรากฐานต่างๆให้แก่บ้านเมือง เมื่อครั้งที่จิ๋นซีฮ่องเต้ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ พระองค์ทรงต้องการความเป็นอมตะอย่างมาก ทรงสั่งให้ทหารไปแสวงหาน้ำอมฤต หรือสร้างสุสานขนาดใหญ่เพื่อชีวิตอันเป็นนิรันดร์ เมื่อเพียงอายุแค่ 13 […]

‘จิ่วจ้ายโกว’ ตั้งอยู่ในอำเภอจิ่วจ้ายโกว ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเสฉวน ประเทศจีน คำว่า จิ่วจ้ายโกว ในภาษาจีน แปลว่า ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน ที่มาของชื่อนี้คือในอดีต จิ่วจ้ายโกว ประกอบไปด้วยหมู่บ้านชาวทิเบตจำนวน 9 หมู่บ้าน อาศัยอยู่บริเวณริมธารน้ำแห่งนี้ อีกทั้งชาวทิเบตยังนับถือภูเขา และธารน้ำ ด้วยเหตุนี้ จิ่วจ้ายโกว จึงได้รับการเคารพจากชาวทิเบตว่าเป็นขุนเขาธารน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ การไปชมความงามของ จิ่วจ้ายโกว สามารถไปได้ 3 ฤดู หากแต่ว่าในแต่ฤดูก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี (ช่วงเดือนตุลาคม) เป็นช่วงรับชมความงามได้สวยที่สุด บริษัททัวร์นิยมจัดทัวร์มาจิ่วจ้ายโกวกันเยอะที่สุด นักท่องเที่ยวก็เยอะที่สุดและราคาทัวร์ก็แพงที่สุด ตามความงาม ช่วงหน้าหนาว (ช่วงปีใหม่-เดือนมีนาคม) ในช่วงนี้คุณจะได้ชมธารน้ำแข็งสวยงาม ตระการตา ในเรื่องของราคาทัวร์แน่นอนว่าถูกสุดด้วย เนื่องจากไม่ค่อยมีใครไปชมสักเท่าไหร่ เพราะอากาศอันหนาวเย็น แต่วิวของน้ำตกขนาดใหญ่ที่กลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด รับรองว่าสวยงามมาก ช่วงหน้าร้อน คุณจะได้สัมผัสกับน้ำในทะเลสาบสีฟ้าใสตัดกับผืนป่าอันเขียวขจี ของช่วงเดือนพฤษภาคม -เดือนสิงหาคม ในช่วงนี้นักท่องเที่ยวน้อย ส่วนราคาทัวร์ก็มีราคากลางๆ อากาศก็เย็นสบายกำลังดี เมื่อรู้อย่างนี้แล้วคุณสามารถเลือกไปตามกำลังทรัพย์และความชอบได้เลย ตำนานความเป็นมาของจิ่วจ้ายโกว ในครั้งโบราณ มีนักรบชายหนุ่มคนหนึ่ง เขามีชื่อว่า ต้าเกอ เขาเป็นผู้มีชีวิตเป็นอมตะ […]