‘จิ่วจ้ายโกว’ ตั้งอยู่ในอำเภอจิ่วจ้ายโกว ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเสฉวน ประเทศจีน คำว่า จิ่วจ้ายโกว ในภาษาจีน แปลว่า ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน ที่มาของชื่อนี้คือในอดีต จิ่วจ้ายโกว ประกอบไปด้วยหมู่บ้านชาวทิเบตจำนวน 9 หมู่บ้าน อาศัยอยู่บริเวณริมธารน้ำแห่งนี้ อีกทั้งชาวทิเบตยังนับถือภูเขา และธารน้ำ ด้วยเหตุนี้ จิ่วจ้ายโกว จึงได้รับการเคารพจากชาวทิเบตว่าเป็นขุนเขาธารน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ การไปชมความงามของ จิ่วจ้ายโกว สามารถไปได้ 3 ฤดู หากแต่ว่าในแต่ฤดูก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป
- ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี (ช่วงเดือนตุลาคม) เป็นช่วงรับชมความงามได้สวยที่สุด บริษัททัวร์นิยมจัดทัวร์มาจิ่วจ้ายโกวกันเยอะที่สุด นักท่องเที่ยวก็เยอะที่สุดและราคาทัวร์ก็แพงที่สุด ตามความงาม
- ช่วงหน้าหนาว (ช่วงปีใหม่-เดือนมีนาคม) ในช่วงนี้คุณจะได้ชมธารน้ำแข็งสวยงาม ตระการตา ในเรื่องของราคาทัวร์แน่นอนว่าถูกสุดด้วย เนื่องจากไม่ค่อยมีใครไปชมสักเท่าไหร่ เพราะอากาศอันหนาวเย็น แต่วิวของน้ำตกขนาดใหญ่ที่กลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด รับรองว่าสวยงามมาก
- ช่วงหน้าร้อน คุณจะได้สัมผัสกับน้ำในทะเลสาบสีฟ้าใสตัดกับผืนป่าอันเขียวขจี ของช่วงเดือนพฤษภาคม -เดือนสิงหาคม ในช่วงนี้นักท่องเที่ยวน้อย ส่วนราคาทัวร์ก็มีราคากลางๆ อากาศก็เย็นสบายกำลังดี
- เมื่อรู้อย่างนี้แล้วคุณสามารถเลือกไปตามกำลังทรัพย์และความชอบได้เลย
ตำนานความเป็นมาของจิ่วจ้ายโกว
ในครั้งโบราณ มีนักรบชายหนุ่มคนหนึ่ง เขามีชื่อว่า ต้าเกอ เขาเป็นผู้มีชีวิตเป็นอมตะ ซึ่งดันไปตกหลุมรักกับเจ้าหญิงนาม อู่นัวเซอโหม่ หญิงผู้สูงศักดิ์ จากความรักอันล้นปรี่ที่ชายหญิงทั้งสองมีให้กัน จึงทำให้เทวดาทั้งหลายเกิดความอิจฉา จนกระทั่งวันหนึ่งต้าเก้อ ได้สร้างกระจกวิเศษ ซึ่งทำมาจากสายลมอันเงียบสงบ , แสงอาทิตย์อันอบอุ่น , หมู่เมฆขาวปุยแสนอ่อนนุ่มละมุนทั้งขาวและบริสุทธิ์ เพื่อนำไปมอบให้เป็นของขวัญให้กับเจ้าหญิง แต่ไม่ทันที่เจ้าหญิงจะได้รับกระจก เหล่าเทพเทวดาที่มีความอิจฉา จึงแกล้งทำให้กระจกแตก เศษกระจกเหล่านั้นได้กระจายล่วงหล่นลงมาสู่โลกมนุษย์ เศษกระจกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยจำนวนมากถึง 108 ชิ้น จนกลายเป็นทะเลสาบน้อย – ใหญ่ถึง 108 แห่ง บังเกิดเป็นทะเลสาบ 5 สี อันมีน้ำใสสีฟ้าจนสามารถทะลุเห็นพื้นทะเล จนเกิดเป็นสระน้ำ 5 สี สีของน้ำนั้นเป็นสีฟ้าใสเจือม่วง สลับไปกับทัศนีย์ภาพของทิวเขา สวยงามอย่างน่าทึ่ง เป็นอย่างยิ่ง
จิ่วจ้ายโกว อุดมไปด้วยป่าไม้โบราณแมกไม้อันหลายหลาก อีกทั้งยังเป็นบ้านของสัตว์ป่าและนกนานาชนิด ปัจจุบันประกอบไปด้วยป่าอันเป็นธรรมชาติมากกว่า 3 พันตารางกิโลเมตร , สัตว์พร้อมพันธุ์พืชกว่า 2,000 ชนิด , สัตว์อนุรักษ์ 17 ชนิด ทั้ง แพนด้า , กระทิง , ค่างขนทอง , แพนด้าจิ๋ว เป็นต้น
